• สวัสดีปีใหม่ 2566 อย่างเป็นทางการ คาดว่าปีนี้ตลาดเหล็กจะมีความคึกคักมากกว่าปีที่แล้วอย่างแน่นอน ในขณะเดียวกัน VRSteel ก็พร้อมทำราคาสินค้าที่ตรงใจสมาชิกทุกท่านอย่างต่อเนื่องเช่นกัน และนอกจากราคาที่ดีแล้ว เรายังได้เตรียมรูปแบบการให้บริการ online ที่จะสื่อสารได้ใกล้ชิดมากขึ้นไปอีกระดับ ติดตามกันต่อไปนะ อีกไม่นานเกินรอ 
• สำหรับประเด็นการไขข้อสงสัย ทำไมราคาเหล็กจึงปรับตัวขึ้นสูงอย่างรวดเร็วนั้น เหตุผลหลักมาจากต้นทุนการผลิต ซึ่งตามที่ VRSteel ได้ประชาสัมพันธ์ไว้ก่อนหน้าว่า ผู้ผลิตเหล็กในไทยได้เริ่มปรับฐานราคาสินค้านับจากวันที่ 9 มกราคม ที่ผ่านมา ก็เนื่องมาจากหลายปัจจัยที่เป็นผลกระทบ โดยเราสามารถสรุปได้ 4 ประเด็นหลัก คือ
  1. ต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น ซึ่งค่าไฟฟ้าสำหรับโรงงานขนาดใหญ่ ปรับจาก อัตราเฉลี่ย 4.43บาท/หน่วย ขึ้นเป็น 5.33 บาท/หน่วย (ปรับขึ้น 20%) ในขณะที่ก๊าซธรรมชาติก็ปรับขึ้นจากเดือนกันยายน 2 บาท/Kg (ปรับขึ้นประมาณ 10%) และแม้ราคาน้ำมันดีเซลในไทยที่เป็นต้นทุนหลักในการขนส่งจะไม่มีการปรับเพิ่มเติม แต่ราคาในปัจจุบันก็ถือว่าอยู่ที่ระดับสูงสุดของทั้งปี 2565 ไปแล้ว
  2. ต้นทุนวัตถุดิบก็พุ่งขึ้น โดยเฉพาะแร่เหล็กที่ปรับจากจุดต่ำสุดในปี 2565 ในเดือนพฤศจิกายนที่ระดับ 81 USD/Ton และขึ้นมาแตะ 110 USD/Ton ในเดือนธันวาคม โดยล่าสุดวิ่งขึ้นมาที่ระดับ 124 USD/Ton (วันที่13/01/2566) ทำให้ราคาวัตถุดิบกึ่งสำเร็จรูป (เช่น Billet, Slab) ต้องปรับตัวขึ้นตามอย่างต่อเนื่อง ผู้ผลิตหลายรายในไทยที่อิงต้นทุนการนำเข้า จำเป็นต้องขึ้นราคาโดยไม่มีทางเลือกอื่น
  3. ภาวะอัตราเงินเฟ้อในไทยสูงตลอดปี เงินเฟ้อทำให้ค่าใช้จ่ายทั่วไปสูงขึ้นตามลำดับ  โดยรายงานจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รายงานว่า ประเทศไทยมีระดับเงินเฟ้อทั่วไปสูงขึ้น 5.89% เลยทีเดียว
  4. เศรษฐกิจจีนฟื้นตัว ความต้องการเหล็กในจีนกลับมา โดยนับตั้งแต่เปิดต้นปี ราคาเหล็กเส้นในจีนปรับจากฐาน 3925 หยวน/ตัน เป็น 4100 หยวน/ตัน คือเพิ่มขึ้น 4.4% ในระยะไม่ถึง 2 สัปดาห์ ซึ่งเป็นราคาซื้อขายที่สูงที่สุดนับจากเดือนสิงหาคม 2565 ท่ามกลางสัญญาณของอุปสงค์ที่ดีดตัวขึ้น เกิดจากความกังวลด้านอุปทาน ต้นทุนสินแร่เหล็กในจีนพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากปริมาณการขนส่งลดลงอย่างมากจากผู้ผลิตรายใหญ่ในบราซิลและการปิดเหมืองแร่ในออสเตรเลีย อีกทั้ง จีนเปิดเสรีการเดินทางในประเทศและยกเลิกการกักกันตัวเพื่อป้องกัน Covid ธนาคารหลักในจีนได้กลับมาปล่อยเงินกู้เพื่อแก้ปัญหาหนี้เสียภาคอสังหาริมทรัพย์ด้วยการซื้อกิจการ และอัดฉีดเม็ดเงินมหาศาลในการปล่อยกู้โครงการที่หยุดชะงัก สวนทางกับการเจาะฟองสบู่ในปีก่อนหน้า ซึ่งคาดว่านโยบายจีนตอนนี้คือการกลับมากระตุ้นภาคอสังหาฯเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมอีกระลอก ความต้องการเหล็กในจีนจึงกลับมาคึกคักอีกครั้ง

• อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ผลิตเหล็กในไทยก็ได้รับอานิสงค์จากอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง เทียบจากอัตราแลกเปลี่ยนวันที่18/12/2565 ที่ระดับ 34.78 บาท/USD และลดลงเหลือ 32.96 บาท/USD ณ.วันที่13/01/2566 ทำให้มีความเป็นไปได้ที่จะสามารถประหยัดต้นทุนนำเข้าวัตถุดิบลงกว่า 5% (ขึ้นอยู่กับนโยบายการวางแผนของแต่ละราย) ซึ่งปัจจัยเงินบาทที่แข็งค่า ถือเป็นตัวช่วยพยุงราคาเหล็กไม่ให้พุ่งสูงขึ้นมากจนเกินไป
• โดยสรุปนี้ VRSteel จึงคาดการณ์ว่า ราคาเหล็กในช่วงเดือน มกราคม 2566 น่าจะอยู่ในเกณฑ์ที่ปรับฐานสูงขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง แนวโน้มการชะลอตัวอาจจะเกิดขึ้นได้ในช่วงสิ้นเดือนมกราคม แต่จะกลับมาคึกคักอีกครั้งช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากหมดเทศกาลวันหยุดยาวของจีนไปแล้ว
• อนึ่ง บทความนี้เป็นเพียงแค่ความเห็นเท่านั้น บริษัทมิได้มีส่วนได้เสียในการเปลี่ยนแปลงราคาของตลาดเหล็กแต่อย่างใด และเนื่องด้วย VRSteel มีนโยบายการรักษามาตรฐานราคาจริง จึงอ้างอิงปัจจัยราคาต้นทุนสินค้าจากผู้ผลิตเป็นหลัก หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ต่อสมาชิก VR member ไม่มากก็น้อย เพื่อประโยชน์สูงสุดในการวางแผนการสั่งซื้อสินค้าเหล็กต่อไป

                                                             Line Official ID : @vrsteel

                                                                 Facebook : vrsteel

                                                                โทร : 02 450 3355-6