เหล็ก “T” (Tempcore) กับ “Non T” ต่างกันอย่างไร!?

บทความน่ารู้

เหล็ก “T” (Tempcore) กับ “Non T” ต่างกันอย่างไร!?

09/04/2025, 13:33:44

จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ผ่านมา ทำให้หลายคนต่างวิตกกังวลในการใช้ชีวิตเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มบุคคลที่ทำงานด้านอุตสาหกรรมการก่อสร้าง ผู้รับเหมา ร่วมถึงร้านค้าเหล็กทุกขนาด ต่างให้ความสำคัญกับข่าวตึกถล่มของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่เกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ “แผ่นดินไหว” ต่างพากันโฟกัสประเด็นเรื่องการเลือกใช้เหล็กต่ำกว่ามาตรฐานที่ควรจะเป็น นั้นก็คือประเด็นของเหล็กเส้นข้ออ้อย มี T กับ Non T นั้นเอง แล้วรู้หรือไม่!? ระหว่างเหล็กที่ผ่านกระบวนการ Tempcore มีส่วนผลิตของแร่ธาตุคุณภาพที่แตกต่างกันกับการผลิตเหล็ก Non T จึงต้องมีการควบคุมวัตถุดิบที่เข้มงวดกว่า

บริษัท แวนเทจ เรด สตีล จำกัด ขอยกประเด็นนี้ขึ้นมาอธิบายเพิ่มเติมให้เข้าใจถึงข้อเท็จจริงได้ง่ายขึ้น โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเด็นหลัก ดังนี้

1. ความต่างในเชิงการผลิต
มี T (Tempcore) : กรรมวิธีทางความร้อน (Heat Treatment) คือ การสเปรย์น้ำหลังจากรีดเหล็กเสร็จแล้วนั้น ทำให้ผิวเหล็กเย็นอย่างรวดเร็ว แต่แกนกลางยังร้อนอยู่ จากนั้นจะทิ้งเหล็กให้เย็นในอากาศ เกิดโครงสร้างเหล็ก 2 แบบ โดยแกนกลางจะเป็นโครงสร้างที่เหนียว ส่วนผิวเหล็กจะเป็นโครงสร้างที่แข็ง

เหล็ก Non T : เป็นเหล็กที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการอบชุบทางความร้อนต่างๆ แต่จะใช้วิธีการเติมเคมีธาตุโลหะผสม อาทิ Vanadium (V), Niobium (Nb), และ Titanium (Ti) เพื่อเพิ่มความแข็งแรง ทำให้เหล็กมีคุณสมบัติทางค่าเคมี , คาร์บอน และแมงกานีสสูงกว่า เหล็กจึงมีคุณภาพมากกว่า

2. คุณสมบัติของเหล็ก T และ Non T
คุณสมบัติเชิงอนุภาค (Microstructure) และ คุณสมบัติเชิงกล (ความแข็งจากผิวไปแกน)

ภาพโครงสร้างเชิงอนุภาคของเหล็กที่ผ่านกระบวนการ Tempcore

จากรูปหากมองเป็นในเชิงอนุภาค (Microstructure) จะสังเกตเห็นได้ว่าเหล็กที่ผ่านกระบวนการ Tempcore มีความแตกต่างของความหนาแน่นที่แบ่งลำดับชั้นจากผิวไปแกนกลางอย่างชัดเจน

จากรูปนี้หากมองในเชิงกล จะเห็นข้อแตกต่างระหว่างความแข็งจากผิวไปแกนเปรียบเทียบระหว่างเหล็กที่ผ่านกระบวนการ Tempcore (1) กับเหล็กที่เกิดจากการปล่อยให้เย็นตัวแบบธรรมชาติ Non T(2) จะสังเกตได้ว่าระดับความแข็ง (Hardness) ไปแกนกลางของเหล็ก (1) นั้นเป็นลักษณะของแอ่งกระทะ คือผิวเหล็กจะมีความแข็งมากกว่าแก่นกลางอย่างชัดเจน แต่ในขณะที่ (2) จะมีความแข็งที่สม่ำเสมอมากกว่าดังภาพ